6/7/54

::สำนวนเปรียบเทียบโวหารและสัญญลักษณ์ที่ปรากฏในคำผญ๋าอีสาน :บ่าวริมโขง :bandonradio

๒.๑.๓  สำนวนเปรียบเทียบ  โวหาร  และสัญญลักษณ์ที่ปรากฏในผญาอีสาน
    การใช้เป็นความเปรียบเทียบสภาพสิ่งต่างๆ  ทั้งรูปธรรมและนามธรรมอย่างน้อยที่สุดสองอย่าง  เพื่อช่วยให้ผู้อ่านผู้ฟังเข้าใจสิ่งที่ถูกเปรียบเทียบ  สำนวนเปรียบเทียบในผญาอีสานมีลักษณะพอสรุปได้ดังนี้
    ๑.  ใช้เป็นบุคลาธิษฐาน [ personification] เป็นการใช้ภาษาในลักษณะที่ทำให้ดูเหมือนว่าสรรพสิ่งทั้งหลายที่ไม่คนเป็นคน  โดยให้สรรพสิ่งเหล่านั้นแสดงอากัปกิริยาต่างๆ  ราวกับเป็นคน  คือพูดได้  ร้องให้ได้  มีความรู้สึก  เป็นการพูดเพื่อให้เกิดคติพจน์และสเทือนอารมณ์  หรือทำให้เกิดสิ่งที่มีคุณค่า ดังคำผญานี้ว่า
    “ เจ้าผู้นาไฮ่ล่งประสงค์ดำแต่กล้าแก่  กล้าอ่อนมีบ่แพ้ดำได้กะบ่งาม” ( เจ้าผู้นาผืนลุ่มประสงค์ดำแต่กล้าแก่  กล้าอ่อนมีมากมาย  ปลักดำได้ก็ไม่งาม) 
    นาไฮ่ล่ง  เป็นนาที่ลุ่มที่สมบูรณ์มีน้ำมาก  ใช้เปรียบเทียบกับสตรีที่มีความงดงามและมีฐานะดี  เพราะนาอย่างนี้เป็นที่สมบูรณ์มากกว่านาดอนที่ไม่มีน้ำท่วมถึงย่อมขาดแคลน  เปรียบเทียบให้เห็นว่า  ชีวิตมนุษย์ย่อมแสวงสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง  เหมือนบุรุษย่อมแสวงหาสาวที่งดงามและมีฐานะมั่นคงจึงจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น
    คำผญาอีสานที่มักจะเปรียบเทียบให้เห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัวมากกว่าเช่น “ บัว, แก้ว,นิล ,ช้าง และหงส์” กวีมักจะนำมาใช้แทนสัญญลักษณ์ถึงสิ่งที่มีคุณค่าแก่ผู้สนใจ  ดังคำผญานี้ว่า 
    “ เจ้าผู้แนวนามแก้วมหานิลอันประเสริฐ  สังบ่ไปเกิดก้ำทางบ้านบ่อนนาง  สังบ่เดินมาผ้ายคาเมบ้านน้องอยู่  ครั้นพี่มาอยู่พี้บ่มีได้อยู่นาน”  ( เจ้าผู้เชื้อชาติแก้วมหานิลอันประเสริฐ  ทำไมไม่ไปเกิดที่ทางบ้านน้อง  ทำไมไม่เดินผ่านไปทางบ้านน้อง  ถ้าพี่ไปอยู่ทางนั้นคงได้แต่งงานนานแล้ว) 
    แก้วและนิล  ถือเป็นอัญมณีที่มีค่าสูงส่ง  ใครก็ต้องการเก็บไว้ครอบครอง  การที่เรียกคนที่ตนรักเช่นนี้เป็นการยกย่องว่าเป็นผู้ที่มีความสำคัญควรแก่การจะแต่งงานด้วย  นักปราชญ์อีสานก็มักจะนำเอาสิ่งที่ตรงกันข้ามนำเปรียบเทียบสั่งสอนให้คนได้รู้จักไตรตรองพิจารณาให้รอบครอบ  การครองคู่ชีวิตจะต้องอาศัยความอดทนต่อความลำบากต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ดังคำผญาสอนว่า
    “โอ้ย  ครั้นเจ้ามักข้อย  แกงหอยให้มันเปื่อย   แกงปลาให้เปื่อยก้าง  แกงช้างให้เปื่อยงา”  (โอ  ถ้าคุณรักฉันจงแกงหอย  แกงกระดูกปลา  แกงงาช้างให้ยุ้ย)  จะเห็นว่าทั้ง หอย ก้างและงาช้าง  นั้นเป็นของแข็งที่ต้มแล้วไม่เปื่อยยุ่ย   เป็นไปได้ยากมากที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ละลายได้จะต้องใช้ทั้งเวลาและความอดทนมาก  ทั้งหมดนี้อาจกล่าวได้ว่าผญาอีสานมักจะแนะนำให้รู้จักกระรักษาสิ่งที่ดีแล้วให้อยู่ตลอด  หรือให้มีความอดกลั้นต่ออุปสรรคต่างๆจึงจะพบกำความสำเร็จได้ 
    ๒.  ใช้เป็นเชิงอุปลักษณ์ [Metaphor]  คือใช้เป็นการเปรียบเทียบของสองสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องนำมาเปรียบเทียบกันว่าเป็นสิ่งเดียวกันหรือเท่ากันทุกอย่าง  เป็นการเปรียบเทียบโดยนัย  โดยใช้คำว่า อดสาห์  คือ  ในการเปรียบเทียบหรืออาจจะไม่มีคำเหล่านี้เลยก็ได้  ดังคำผญาว่า 
    “อดสาห์  เลี้ยงช้างเฒ่าขายงาได้กินค่า      เลี้ยงช้างน้อยตายจ้อยค่าบ่มี (อดทนเลี้ยงช้างแก่ๆไว้ขายงาได้ราคาดี  หากว่าเลี้ยงช้างน้อยถ้าตายแล้วไม่มีประโยชน์อะไร)  เปรียเทียบให้เห็นว่าถ้ารักกับคนที่มีอายุมากกว่าจะดีกว่ารักกับคนที่มีอายุน้อย  จุดประสงค์ต้องการให้เลือกสรรเอาคนที่มีประสบการณ์มากกว่าคนหนุ่มที่ยังไม่มีประสบการณ์  ไม่มีความอดทนพอที่จะต่อสู้กับอุปสรรค์ของชีวิตในอนคตได้เท่ากับคนแก่ หรือตรงกับภาษิตว่า  วัวแก่ชอบกินหญ้าอ่อน  เรื่องบุพเพสันนิวาสนี้เป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ถ้าคนเราเคยสร้างกุศลมาร่วมกันย่อมได้พบกันอีก  แต่ถ้าความรักไม่สมหวังก็มักจะพูดว่า    “ เหลือแฮ็งสร้างกฐินบ่ได้แห่    บาดผู้เพิ่นบ่สร้าง  สังมาให้แห่มา”  (เสียแรงสร้างกองกฐินใหญ่โตแต่ไม่ได้แห่  ทีคนที่ไม่ได้สร้างทำไมได้มาแห่ ) คำผญาบทนี้สะท้อนถึงอารมณ์ของผู้ที่อกหักได้ดี หมายถึงคนอื่นได้ไปครอบครอง กวีมักจะนำเอาสิ่งสองอย่างมาเปรียบเทียบให้เห็นว่า  สิ่งต่างๆในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน  เป็นมนุษย์ควรที่จะรักษาคำสัตย์ต่อกัน  ดังคำผญาว่า
    “ สัจจาแม่หญิงนี้    คือกวยกะต่าห่าง
    ถิ้มใส่น้ำ          ไหลเข้าสู่ตา
    “สัจจาผู้ชายนี้    คือหินนักหมื่น
    เซือกผูกทื้น    พันเส้นบ่ติ่ง
    (วาจาของสตรีเปรียบเหมือนตะกร้าที่ตาห่าง  ทิ้งลงในน้ำย่อมไหลเข้าทุกแห่ง และวาจาของบุรุษเปรียบเหมือนหินที่หนัก ๑๒ กิโลกรัม เอาเชือกผูกพันเส้นมาดึงก็ไม่ขยับเขยื้อน ) เปรียบให้เห็นว่าคำพูดของสตรีเชื้อถือได้อยาก  ส่วนคำพูดของผู้ชายมีความนักแน่นควรเชื้อถือได้  นี้เป็นคำที่คู่สนทนาระหว่างสตรีกับบุรุษที่ต่างกันก็ยกเหตุผลมาอ้างว่าฝ่ายตนเองนั้นมีสัจจะ  แต่มนุษย์ชายหญิงในโลกนี้ย่อมมีทั้งที่ยึดหมั่นในคำสัตว์  แต่ก็มีมากที่ไม่มีคำพูดที่เป็นคำสัตย์ต่อกัน  คือมีดีและเสียเท่าๆกัน  ถ้ามีดีตลอดก็จะไม่มีใครผิดหวังเพราะความรัก  ในเมื่อโลกมนุษย์ยังตกอยู่ในโลกธรรมแปด

bandonradio

ส่งข่าวถึงกันและกัน

Recent Posts

www.bandonradio.blogspot.com = คลื่นแห่งสาระบันเทิง ..

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons