6/7/54

คำผญาอีสานที่สะท้องภาพการเมืองการปกครอง::bandonradio

๒.๗  สะท้อนภาพการเมืองการปกครอง
บั้นพยากรณ์หรือกาลนับมื้อส่วย111  เป็นคำสอนที่มุ่งเตือนสติให้ตั้งมั่นอยู่ในหลักของศีลธรรม  ถ้ากาลเวลาล่วงผ่านไปจิตใจของมนุษย์นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป  และท่านได้มุ่งสอนคล้ายกับปัญหาของพระเจ้าปัสเสนทิโกศลมาทูลถามกับพระพุทธเจ้า  แต่ของภาคอีสานท่านเรียกว่ากาละนับมื้อส่วย(เสื่อมถอย,หย่อนยาน)ทั้งคลองศีลธรรมและจารีตประเพณีต่างๆก็จะเสื่อมถอยไปด้วย  เพราะมนุษย์มองไม่เห็นคุณค่าของศีลธรรมแต่กลับไปเชิดชูวัตถุแทน  ดั่งนั้นท่านนักปราชญ์จึงได้แปลงสารเพื่อให้พี่น้องชาวพุทธได้หันกลับมาสู่หลักธรรมของพระพุทธเจ้า  ดังนี้คือ
๑)    บัดนี้กาละนับมื้อส่วยหลายปีเป็น    อันต่างมาแล้ว
    พระหากเทเทศน์ไว้        ภายสร้อยศาสนา
หมายถึงกาลเวลาผ่านไปหลายปีก็จะมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นก็จะมีการเสื่อมถอยหย่อนยานบั้นปลายศาสนา
๒)    ฝูงหมูหญิงชายส่วยสิบสาม    สิมีลูกลือแล้ว
    ชายและหญิงจำถูกกิเลสเข้าครอบงำแล้วจะมีลูกก่อนวัยอันควรอย่างดาดดื่น
๓)    นักปราชญ์ถมแม่น้ำนทีกว้าง    ขาดเขิน
หมายถึงนักปราชญ์ไม่กล่าวสอนธรรมหรือโลกจะขาดธรรมะหรือมีดร.เต็มบ้านเต็มเมืองแต่ประชาชนไม่ได้ความรู้จากเขาเลย
๔)    แม่นว่าสังฆะเจ้าทรงธรรม        ในสูตรก็ดี
    ยังเล่าแปลงจ่ายเชื้อเงินด้วง        คั่วขาย
    แม้ว่าพระสงฆ์ก็ยังมีการชื่อขายแลกเปลี่ยนเงินตราเหมือนชาวบ้าน(ชื่อหวย)
๕)    ลางเหล่ายังจำมั่นคำสอน        พุทธบาทก็มี
    สังฆะสมณ์สิ่งนั้นมีน้อย        บ่หลาย
    บางหมู่คณะก็ตั้งมั่นในคำสอนของพระพุทธจ้าแต่ว่ามีน้อย
๖)    โจราได้ทะวาวคำ        ม้าขี่ก็มี
    หมายถึงข้าราชการปล้นชาติจะมีรถยนต์นั่งฟรีน้ำมันฟรี
๗)    นักปราชญ์เป็นงาวง่วงถือกระเบื้อง    คั่วขอ
    คนหลักเป็นคนใบ้ใจเบา        คิดบ่ถืก
หมายถึงคนดีๆจะทำตัวเหมือนคนใบ้ไม่สนใจใคร  คนดีจะท้อใจเพราะสังคมไม่รับรองและคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี  มีแต่ความวางเฉยต่อเหตุการณ์บ้านเมือง
๘)    หินแฮ่ไหลล่องแก้งโฮฮ้อง        สนั่นเมือง
    หมายถึงคนไม่รู้หลักการบริหารแต่ได้ดีเพราะการประจบเจ้านาย
๙)    กบเขียดฮ้องประสงค์อ่าน        โคลงสาร
    ฝูงหมู่งูเพาพิษเงือกสิกลัว        เกรงย้าน
    ถึงเวลาแล้วประชาชนจะขับไล่ไปเอง(ประท้วง)
๑๐)    หินอยู่น้ำไหลล่อง        ตามกระแสร์
    เขาก็ไลสาครไปอยู่นอน        ในบ้าน
    หมายถึงผู้ที่เคยมีหลักหนักแน่นก็จะเป็นไม้หลักปักขี้ควาย
๑๑)    ปลาบึกขึ้นหนีสาคร        ค้างหาด
    คึดสิขึ้นอยู่ลี้ปลายไม้        สิ่งแลน
    ปูปลาฮู้เปิดน้ำหนีหน่าย        วังปลา
    คนดีๆมีศีลธรรมจะพากันหลีหนีไป
๑๒)    เขาก็แยงภูผาเถื่อนพนา    เนาค้าง
    สระบ่มีน้ำ        เอาไปทำไว้สู่แห่ง
    อุแอ่งหม้อหมางน้ำว่า    สิหนี
    หมายถึงผู้มีอำนาจฝ่ายปกครองจะโกงกินบ้านเมืองทำให้ประชาชนเดือนร้อน
๑๓)    เอี่ยนก็มาเปิดน้ำสิหนีจาก    วังตม
    เขาก็ไปแปงฮวงฮังอยู่เทิง    ปลายไม้
    หมายถึงประชาชนเบื่อละอาจริงๆ
๑๔)    งูเงือกพร้อมหนีเขื่อน    ชลธา
    เขาสิเนาภูผาบ่อนมัน    บ่มีน้ำ
    หมายถึงลูกหลานชาวบ้านขาดการเหลียวแลจากรัฐบาลจะหนีเข้ากรุง
๑๕)    มาลาฮ้างฮามสูญ    เสียกลิ่น
    หงษ์คำก้มกราบไหว้ประนมน้อม    หมู่กา
    หมายถึงคนดีจะทำลายศักดิ์ศรีตนเองไปหลงกราบไหว้งอนง้อคนชั่ว
๑๖)    หมากพร้าวมาเปิดต้นตกล่วง    ลงดิน
    มันบ่ยินดี        ดอมผู้เฮ็ดบุญเป็นการค้า
    หมายถึงผู้มีศีลจะลดตัวลงไปเป็นลูกน้องของคนชั่วที่วางตัวเป็น
๑๗)    ครกมองฮ้างหมางเมิน    ข้าวเปลือก
    ซ้าหลอดมาเปิดเบี้ยแถมซิ้น    ใส่ใน
    หมายถึงคนจะหันหลังให้วัฒนธรรมของตนเอง
๑๘)    จวงจันทร์หล้างของแพง    ทางเทศสเภาพุ้น
    มาคั่นหิ้วหูซ่า        เที่ยวขาย
    หมายถึงของปลอมจะเต็มบ้านเต็มเมือง
๑๙)    มณีนีลเศร้าเสียแสง    สรรพฮูปมีแล้ว
    หินแฮ่เป็นหน่วยแก้ว    พิลาเข็มค่าสิแพง
    ยูงยางต้น        ลำงามสิตายแดด
    ขอนดอกไหลล่องน้ำ    สั่งมาปิ้นป่องใบ
    หมายถึงคนดีจะไม่ได้ดีแต่คนชั่วกลับได้ดีเพราะนายมันชั่ว
๒๐)    ไก่น้อยให้        กินนมนำกา
    หมาน้อยไห้        กินนมนำเสือโคร่ง
หมายถึงชาวบ้านจะพากันขอกินผู้แทนๆ(ชื้อเสียง)ก็จะไปถอนทุนคืนเหมือนไก่ถูกกากิน  หมาน้อยถูกเสือกัน
๒๑)    หมากน้ำเต้าหน่วยแห้ง    สิจมลงทางลุ่ม
    หินอยู่ใต้น้ำ        สิฟูขึ้นดังสโน
    หมายถึงคนดีจะไม่มีคนเลือกแต่จะไปเลือกเอาคนชั่วมาปกครองบ้านเมือง
๒๒)    เขาสิฆ่ากันตาย        คือขอนไฮ่
    มีแต่โลภอยากได้    บ่มีเอื้ออ่าวศีล
    หมายถึงผู้ถูกเลือกจะฆ่ากันเองเพราะผลประโยชน์ไม่ลงรอยกัน
๒๓)    มณีนิลเศร้าเสียแสง    สลับเพศ
    หินแฮ่เกิดเป็นหน่วยแก้วพิลาเข้ม    ค่าแพง
    หมายถึงคนดีจะถูกเจ้านายชั่วเอาคนชั่วมารับความชอบแทน
๒๔)    บัวขี้แบ้บานเกิด        กลางหนอง
    บัวทองเกิดหัวสวน    บ้านเก่าเฮาบ่อนเคยยั้ง
    หมายถึงคนดีๆทนระบบไม่ไหวก็ลาออกไป
๒๕)    ฝนตกโฮ่งไหลลงโฮม    โคกโท้โล้
    ที่ลึกมาแล่นตื้นไปห่ง    แต่บ่อนเขิน
    หมายถึงคนได้ดียิ่งได้ดีหรือคนรวยยิ่งรวยคนจนยิ่งจน(ปลาใหญ่กินปลาเล็ก)
๒๖)    กาดำดั้นบินไป        ลี้ลอบ
    ภูใหญ่ผาแผ่นล้านตัวเต้า    ต่ำปู
    หมายถึงคนชั่วรอบรู้โวหารเก่งคนใหญ่คนโตยอมสยบให้
๒๗)    คนเล่าพากันสร้างตันป่อง    ชลธี
    ปลาก็บินบนแยงเมฆพะโยม    ยังฟ้า
    หมายถึงการโกงกินจะมีอยู่ทุกวงการ
๒๘)    หนูซิงตะบะให้แมวบักดำ    ก้มขาบ
    หมาจอกมาเห่าช้าง    เป็นน่าอยากหัว
    หมายถึงประชาชนเจ้าของประเทศจะถูกข้าราชการผู้เป็นลูกจ้างของตนข่มเหง
๒๙)    หมาจอกขึ้นวอทอง    คนหามแห่
    คันคากมันอยากได้ฉัตรกั้น    แข่งฝน
    หมายถึงคนชั่วจะได้รับการยกย่อง
๓๐)    ขี้กระเดือนฮู้บินบน    อากาศ
    หินก้อนล้านฟูน้ำ    ล่องไหลแท้นอ
หมายความว่าคนไม่มีความรู้ทั้งไม่มีศีลธรรมจะครองบ้านครองเมือง
๓๑)    พระสงฆ์เจ้าบ่มีสอน    ธรรมสวากข์
    มีแต่ความขี้คร้านฉันแล้ว    ก็เหล่านอน
    หมายความว่าพระสงฆ์ไม่เอาธุระในพระศาสนา
๓๒)    ฝูงคนเฒ่าศีลธรรม    บ่มีเชื่อ
    เชื่อแต่คนขี้เหล้า    มาเว้าแจกเงิน
    หมายถึงคนเฒ่าคนแก่จะไม่มีศีลธรรม
๓๓)    ความเดือนฮ้อน        คนก่อให้มันเป็น
    มีแต่อัปปรีย์เป็น    ให้หมั่นเห็นเลิงพ้อ
    หมายถึงคนจะเกิดเดือดร้อนเพราะบาปที่ตนก่อ
๓๔)    คนสิตายถ้อนเข้าเหลือสาม        ฮ่มโพธิ์ศรี
    เขาจึงมีใจคิด        เฮียกหาพระไตรแก้ว
หมายถึงเมื่อคนขาดศีลธรรมเข่นฆ่ากันเองตายมากขึ้นคนเหลือน้อยจนจะสูญพันธุ์ คนจึงใฝ่หาศีลธรรม
๓๕)    ต่อจากหั่น        พระยาธรรมสิมาซ่อย
    หินอยู่พื้นสิจมลง    คือเก่า
    บักน้ำเต้าหน่วยแห้ง    สิฟูขึ้นดั่งเดิม
หมายถึงเมื่อคนประพฤติแล้วธรรมก็คุ้มครอง  คนชั่วจะถูกเกลียดชัง  คนดีจะเป็นที่ยอมรับคือได้รับการยกย่อง  สรรเสริญ
๓๖)    ทุกสิ่งเชื้อที่เกิดอยู่    เมืองมนุษย์
เขาสิมีความสุข        ทุกข์บ่มีมาใกล้
หมายถึงว่าทุกชีวิตไม่ว่าคน,สัตว์ ต้นไม้  เขาจะไม่เบียดเบียนกันจะมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไปเพราะการรักษาศีลธรรม
คำสอนของท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ 112 (สิริจันโท  จันทร์)  ผู้เป็นนักปราชญ์ชาวอีสานอีกรูปหนึ่ง  และเป็นนักเทศน์เอกในยุคนั้น  วรรณกรรมเรื่องนี้ได้สะท้อนถึงความเชื้อต่างๆที่ท่านเจ้าคุณได้นำเอาปัญหา  ๑๖  ข้อที่พระเจ้าปัสเสนทิโกศลนำมากราบทูลพระพุทธเจ้ามาแต่งเป็นคำสอนตามแบบของอีสานได้อย่างลึกซึ่งกินใจที่หมายถึงความเจริญและเสื่อมของจิตใจของคนเมื่อล่วงถึงสามพันปี  ดังนี้คือ
คำที่อาจารย์เจ้าโบราณเพิ่นชี้บอกมานั้น  คือว่าสังกาสล้ำเข้าเขตสามพันปี
จักเกิดมีโภยภัยพยาธิเดิมมาต้อง    แม่นว่าครองสมณ์สร้างในธรรมพุทธบาทก็ดี
ก็บ่ตั้งเที่ยงหมั่นในแห่งสิกขาบท   ศิษย์บ่ฟังคำครูซิเสื่อมทราบเพม้าง
แม่นว่าองค์กษัตริย์ไท้ทะรงเมืองตุ้มไพร่ก็ดี   ก็บ่ตั้งเที่ยงมั่นในฮีตคลองธรรมคนบ่ยำเกรงย้านครูบาพ่อแม่  จักเกิดเป็นเหตุฮ้ายขี่ยุคโพยภัย   จักเกิดเป็นกังวลเข้านาตายแล้ง
จักเกิดเป็นอุบาทว์ฮ้อนปูปลาน้ำเขินขาด  ความสุขหาบ่ได้ความฮ้อนแล่นจ่นมา
จักเป็นเศิกกันบ่มั้วโจรมารทุกประเทศ  ฝูงไพร่น้อยความฮ้อนยิ่งกว่าไฟว่านา
อันนี้เป็นคำเถ้าอาจารย์ตั้งแต่เก่า 
สอนถึงความเจริญในยุคนี้ว่า
ทางไกลเป็นทางใกล้ทางรถไฟรถยนต์แล่น  แม่นจักเดินทางน้ำเฮือยนต์จอดทุกท่า
เขาหากดาแต่งไว้คอยถ่าผู้ซิไปแท้แหล้ว  อันที่ในเมืองบ้านทางเดินดูสะอาด
มีแต่ไฟตามได้ชูแสงใสสว่าง  ตั้งหากดูสล้างไฟฟ้าเพิ่นต่อสายเจ้าเอย
คือว่ากลางคืนเป็นกลางวัน ตั้งฮุ่งเฮืองจนแจ้ง

bandonradio

ส่งข่าวถึงกันและกัน

Recent Posts

www.bandonradio.blogspot.com = คลื่นแห่งสาระบันเทิง ..

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons